วิธีปลูกเมล่อน สำหรับมือใหม่

วิธีปลูกเมล่อน

ทำไมถึงควรปลูกเมล่อน

        เมล่อนเป็นพืชที่ได้รับความนิยมในการบริโภคเป็นอย่างมาก ทั้งในไทยและต่างประเทศ เนื่องจากมีรสชาติหวานกรอบ อุดมไปด้วยวิตามิน
และแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย การปลูกเมล่อนจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกร เนื่องจากมีความต้องการสูง และมีราคาดี
และใช้ระยะเวลาปลูกค่อนข้างสั้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น คือประมาณ 60-85 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

การปลูกเมล่อนมีข้อดีหลายประกา

การปลูกเมล่อนมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

1. มีความต้องการสูง เมล่อนเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมในการบริโภคเป็นอย่างมาก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้มีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาเมล่อนมีแนวโน้มสูงขึ้น

2.ราคาดี เมล่อนเป็นพืชที่มีราคาดี เมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่นๆ ทำให้มีรายได้ดีสำหรับเกษตรกร

3.ปลูกง่าย เมล่อนเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับเกษตรกรมือใหม่

4.สามารถปลูกได้หลายพื้นที่ เมล่อนสามารถปลูกได้หลากหลายพื้นที่ ทั้งในเขตร้อนและเขตหนาว

เมล่อนยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

นอกจากนี้ เมล่อนยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

        เนื่องจากเมล่อนอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ โพแทสเซียม และไฟเบอร์ เมล่อนจึง
มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา ควบคุมความดันโลหิตและป้องกันโรคต่างๆ สำหรับเกษตรกรที่สนใจปลูกเมล่อน ควรศึกษา
ข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ เคล็ดลับการปลูกเมล่อนให้ได้ผลผลิตดี ได้แก่ การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม
เตรียมดินให้ดี ให้น้ำอย่างเหมาะสม ใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสม

วิธีปลูกเมล่อน สำหรับมือใหม่

เมล็ดพันธุ์เมล่อน

การเตรียมเมล็ดพันธุ์เมล่อน

        เมล็ดพันธุ์เมล่อนมีหลายสายพันธุ์ให้เลือกปลูก ขึ้นอยู่กับความชอบและความเหมาะสมของพื้นที่ปลูก เมล็ดพันธุ์ที่ดีควรมีอายุไม่เกิน 1 ปี และเก็บรักษาไว้ในที่แห้งและเย็น

ขั้นตอนการเพาะเมล็ด

1.แช่เมล็ดเมล่อนในน้ำอุ่น 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-4 ชั่วโมง

2.นำไปล้างเมล็ดให้สะอาด แล้วนำไปห่อด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน

3.นำเมล็ดลงเพาะในวัสดุเพาะปลูก เช่น ดินร่วนปนทราย หรือวัสดุปลูกสำเร็จรูป กลบดินให้มิด

4.รดน้ำให้ชุ่ม แล้ววางไว้ในที่ร่มที่มีแสงแดดส่องถึง

5.เมื่อเมล็ดงอกใบจริง 2-3 ใบ ก็สามารถย้ายกล้าลงปลูกในแปลงได้

การเตรียมแปลงปลูก

การเตรียมแปลงปลูก

        แปลงปลูกเมล่อนควรเป็นพื้นที่ที่ระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน ดินควรมีอินทรียวัตถุสูง ปรับสภาพดินให้ร่วนซุยด้วยการไถพรวน
ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปูพลาสติกคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นควรปลูกภายในโรงเรือนเพราะจะลดความเสี่ยงจากโรคพืชและศัตรูพืชได้
อีกทั้งทำให้สามารถความคุมสภาพอากาศได้ ทำให้สามารถปลูกเมล่อนได้ทุกฤดูกาล พลาสติกคลุมโรงเรือนที่นิยมใช้ปลูกเมล่อนคือ 
สูตรมาตรฐาน
หากพื้นที่มีปัญหาเรื่องความร้อนสะสมในโรงเรือนมากๆ ก็สามารถใช้ สูตรลดความร้อนและกระจายแสง ได้เช่นกันเพราะเมล่อนเป็นพืชที่ไม่ชอบ
ความร้อนที่สูงมาก การใช้สูตรนี้จะช่วยให้เมล่อนเจริญเติบโตได้ดีมากขึ้น และผลิตผลิตมีคุณภาพที่สูงอีกด้วย

ขั้นตอนการปลูกเมล่อน

ขั้นตอนการปลูกเมล่อน

1.ขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50 เซนติเมตร ห่างกันประมาณ 1 เมตร

2.นำต้นกล้าที่มีอายุประมาณ 20 วัน ลงปลูกในหลุม กลบดินให้มิด

3.รดน้ำให้ชุ่ม แล้ววางไว้ในที่ร่มที่มีแสงแดดส่องถึง

4.เมื่อต้นเมล่อนเริ่มโต ให้ทำการผูกยึดลำต้นให้ตั้งตรง

การดูแลรักษาเมล่อน

การดูแลรักษาเมล่อน

1.รดน้ำให้เพียงพอ โดยรดน้ำเช้าเย็น หลีกเลี่ยงการรดน้ำช่วงเย็นเกินไป เพราะจะทำให้ใบเปียกชื้นและเกิดโรคราน้ำค้างได้

2.ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นและผล โดยใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ทุก 15 วัน

3.ตัดแต่งกิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อช่วยให้ต้นได้รับแสงแดดทั่วถึง

4.ป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยอ่อน ไรแดง โรคราน้ำค้าง

การเก็บเกี่ยวเมล่อน

การเก็บเกี่ยวเมล่อน

        ก่อนเก็บผลผลิตงดให้น้ำประมาณ 7-10 วัน เมื่อผลเมล่อนสุกก็จะมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะภายนอก คือ ในพันธุ์ที่ผิวมีร่างแหจะพบว่าร่างแห
เกิดขึ้นเต็มที่คลอบคลุมทั้งผล ผิวเริ่มเปลี่ยนสีและอ่อนนุ่มลงและในบางพันธุ์จะมีกลิ่นหอมเกิดขึ้น อายุเก็บเกี่ยวของเมล่อนที่เหมาะสมนั้นขึ้นกับพันธุ์
ซึ่งพันธุ์เบาจะมีอายุ การเก็บเกี่ยว 60-65 วัน พันธุ์ปานกลางมีอายุเก็บเกี่ยว 70-75 วัน และพันธุ์หนักที่มีอายุเก็บเกี่ยวเกินกว่า 80-85 วัน

ราคาเมล่อน

ราคาเมล่อนในปัจจุบัน

        ราคาเมล่อนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สายพันธุ์ คุณภาพ ฤดูกาล และสถานที่จำหน่าย เมล่อนญี่ปุ่น เป็นที่นิยมปลูกในประเทศไทยมากที่สุด
เนื่องจากมีรสชาติหวานและหอม ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ราคาขายจึงค่อนข้างสูงเมล่อนสายพันธุ์อื่นๆ ก็มีรสชาติดีและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเช่นกัน

        ราคาเมล่อนในปัจจุบัน (10/10/2023)

  •         - เมล่อนญี่ปุ่น พันธุ์ยูบาริ น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 250-350 บาท
  •         - เมล่อนญี่ปุ่น พันธุ์ฮอกไกโด น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 200-250 บาท
  •         - เมล่อนเนื้อเขียว น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 150-200 บาท
  •         - เมล่อนเนื้อส้ม น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 100-150 บาท